
การท่องเที่ยวในวันพักผ่อนในวันหยุดจากการงานสำหรับบางคนแล้วอาจต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ไม่ต้องการไปเที่ยวในที่มีคนมากมายจอแจแวดล้อมไปด้วยภูมิประเทศสวย ๆ บ้านเรือนผู้คนสโลว์ไลฟ์ไม่รีบเร่ง หากคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่คิดเช่นนั้น จังหัวดอุทัยธานีคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณตามหา นอกจากจะเป็นเมืองที่สบาย ๆ ผ่อนคลายแล้ว อุทัยธานีก็ยังมีสถานที่น่าไปสัมผัสอีกหลายรูปแบบอย่างเช่น 10 ที่เที่ยวต่อไปนี้
1. ชุมชนแพริมท่าน้ำสะแกกรัง

สองริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรังมีผู้คนอาศัยอยู่ในแพและสร้างบ้านเรือนอยู่ชิดติดแม่น้ำมามากกว่า 100 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 มาจนปัจจุบันลูกหลานของชาวสะแกกรังก็ยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนเป็นภาพที่สวยงาม ด้วยแพที่ทอดยาวไปยังโค้งริมน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านที่นิยมปลูกเตยและทำประมงน้ำจืด วิธีท่องเที่ยวชุมชนแพริมน้ำสะแกกรังจะใช้เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศเรียนรู้ความเป็นอยู่หรือเลือกลงเรือหางยาวล่องชมสองฝั่งแม่น้ำที่ท่าน้ำเทศบาลก็ได้
ที่อยู่ : ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง
ค่าเข้าชม : ค่าเรือลำละ 500 บาทต่อชั่วโมง นั่งได้ 10-12 คน
เวลาเปิด-ปิด : เช้า 6.00 น.- 9.00 น. เย็น 16.30 น.- 18.00 น.
2. หมุดโลกบนยอดเขาสะแกกรัง
บนยอดเขาสะแกกรังที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าขึ้นไปด้วยระยะทาง 400 เมตรจะถึงยังยอดเขาสะแกกรัง จะพบเข้ากับจุดชมวิวที่มองลงมาเห็นวิวมุมสูงของเมืองอุทัยธานีได้กว้าง เป็นที่ตั้งของ หมุดโลก หรือ หมุดศูนย์กำเนิดพื้นฐานโลก ซึ่งนับเป็นหมุดโลกเพียง 1 ใน 3 ที่มีในทวีปเอเซีย มีความสำคัญในการสำรวจแผนที่โลกทางการทหารใช้เพื่อเป็นตัวหลักในการคำนวนแบ่งแนวเขตกำหนดพิกัดลงในแผนที่โลก โดยตรงจุดนี้มีลักษณะเป็นฐานซีเมนต์รูปตัวเอ็นเป็นโครงข่ายรังวัดสัญญาณดาวเทียม จีพีเอสเพื่อทำแผนที่ประเทศไทยและแผนที่โลกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 6.00 น – 20.00 น.
3. หุบป่าตาด

หุบป่าตาดเป็นถ้ำที่อยู่ในเขาหินปูนที่ต้องปีนลึกลงไป เหมาะกับคนที่ชอบเดินป่าสัมผัสธรรมชาติและผจญภัย ในถ้ำนี้เต็มไปด้วยต้นตาดระหว่างทางก็มีต้นไม้ทึบเหมือนป่าดงดิบ แต่มีป้ายบอกชื่อต้นไม้และรายละเอียดเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนั้นกระจายอยู่ทั่วเส้นทางให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้ศึกษาพืชพรรณไม้ไปด้วยในตัว ข้างบนมีจุดชมวิวที่มองลงไปเห็นเทือกเขาลดหลั่นสลับสีอ่อนเข้มเหมือนภาพเขียนของจิตรกร บางช่วงมีทางเดินหินที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามลอดอุโมงต้นไม้เกิดเป็นภาพที่น่าประทับใจชวนให้ไปสัมผัส
ที่อยู่ : อำเภอลานสัก
ค่าเข้าชม : 20 บาท
เวลาเปิด-ปิด : 8.00 น.- 16.00 น.
4. วัดจันทาราม

วัดจันทาราม หรือมีชื่อเรียกติดปากว่า วัดท่าซุง เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองอุทัยธานีที่นี่มีศาสนสถานที่ก่อสร้างอย่างงดงามความงดงาม คือ วิหารแก้ว วิหารทองคำสวยงามตระการตา ภายในวิหารเต็มไปด้วยเสาแก้วระยิบระยับ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลอง ที่เคารพของชาวอุทัยธานี และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ที่อยู่ : อ.เมือง
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : มีสองช่วงคือ 9.00 น.-11.00 น. และ 14.00 น.- 16.00 น.
5. ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์

เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่มเปิดให้เข้าชมไม่นาน เบื้องล่างของพื้นคอนกรีตที่สร้างเป็นฝายกั้นน้ำไว้เมื่อนำไหลลงมาเป็นแนวตรงก็เป็นเหมือนม่านน้ำที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ สวยเหมือนม่านสวรรค์มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมบางส่วนของขอบฝายและกิ่งก้านต้นไม้เลื้อยลงมาเบื้องล่าง เบื้องหลังเป็นภาพทิวเขาสวยงามชวนให้เก็บภาพสวยแปลกที่ไม่มีที่ใดเหมือนมาก่อน
ที่อยู่ : อำเภอบ้านไร่
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 7.00 น.- 18.00 น.
6. ถนนคนเดินตรอกโรงยา
เดินเที่ยวเล่นในย่านถนนคนเดินที่ตรอกโรงยา ชื่อว่าตรอกโรงยาเพราะเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงฝิ่น ที่นี่มีทั้งสินค้าพื้นถิ่น ของแฮนด์เมด ของฝาก หาอาหารอร่อย ๆ ลิ้มรส ทั้งอาหารอร่อยขึ้นชื่อและอาหารท้องถิ่นและมีสถานที่แปลก ๆ ภายในตรอกโรงยาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ๊โหนก เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่าแก่ขึ้นชื่อของเมืองอุทัยธานี ตัวร้านเป็นตึกแถวที่ทำด้วยเรือนไม้แบบโบราณเช่นเดียวกับร้านรวงอื่น ๆ ในย่านนี้ ซึ่งจะมองเห็นวิถีของคนสมัยกว่าร้อยปีที่ยังมีชีวิต บ้านนกเขาก็เป็นอีกแห่งที่ต้องแวะในตรอกโรงยา เป็นบ้านของลุงชื่อนกเขาที่สะสมของเก่าโบราณไว้ในบ้านมากมายหลายพันชิ้น ทั้งของไทยเอง ของประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ
ที่อยู่ : อำเภอเมือง
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์ 14.oo น.- 20.00 น.
7. เรือนไทยวัดถ้ำเขาวง

มาสัมผัสบ้านเรือนไทยแท้ ๆ ของภาคกลางในอดีตเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเขาวง สร้างเป็นลักษณะเรือนไทยที่มีหลังคาทรงจั่วแหลมทำจากไม้แท้ ๆ ทั้งหมู่เรือนไทยขนาดใหญ่ วัดแห่งนี้สร้างอยู่บนหน้าผาของภูเขา ตัวเรือนไทยจึงสร้างลดหลั่นกัน 4 ชั้น ชั้นล่างคือใต้ถุนเรือนไทยเป็นลานกิจกรรม ชั้นสองเป็นวิหาร ชั้นสามเป็นกุฎิพระ ชั้นสี่ คือพระวิหาร
ที่อยู่ : อำเภอบ้านไร่
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 น.- 16.30 น.
8. บ้านผาทั่ง
เป็นชุมชนที่อยู่ของชาวบ้านท้องถิ่น แต่เดิมบรรพบุรุษอพยพมาจากประเทศลาวและที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ผ้าทอโบราณซึ่งเป็นผ้าทอจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอุทัยธานีมายาวนาน เป็นภูมิความรู้ของชาวลาวเวียงซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนในแถบนี้สีสัน ลวดลายของผ้าเป็นเอกลักษณ์ต่างจากที่อื่น และทุกผืนย้อมด้วยสีจากธรรมชาติ มีทั้งผ้าซ่นและผลิตภัณฑ์มากมายที่ซื้อกลับเป็นของใช้ของฝากได้
ที่อยู่ : อำเภอบ้านไร่
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 8.00 น.- 17.00 น.
9. เกาะเทโพ

เกาะเทโพเป็นแหลมที่ตั้งอยู่ตรงกลางกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง ทางข้ามไปยังเกาะเทโพเป็นสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างวัดอุโปสถารามและตลาดสดเทศบาล บนเกาะมีทั้งวัดโปสถารามให้เข้าไปเที่ยวชมสักการะ และธรรมชาติสวยงามบนเกาะที่ร่มรื่น มีบรรยากาศสบายผู้คนนิยมปั่นจักรยานข้ามมาทางสะพานแขวนเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเกาะ
ที่อยู่ : อำเภอเมือง
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 8.00 น.-16.00 น.
10. บ่อน้ำพุร้อนบ้านสมอทอง
ภายในบริเวณโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วมีบรรยากาศร่มรื่นริมน้ำให้มาพักผ่อน เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนบ้านสมอทอง เป็นน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาบนผิวดิน ปัจจุบันได้ทำเป็นบ่อขึ้นมาสวยงามเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส มีสระน้ำแร่ไว้บริการท แยกเป็นบ่อให้ลงไปแช่ตัว แช่เท้า มีห้องอาบน้ำบริการ ภายในบริเวณรอบ ๆ มีจักรยานให้เช่าถีบเล่นด้วย
ที่อยู่ : อำเภอห้วยคต
ค่าเข้าชม : 20 บาท
เวลาเปิด-ปิด : 8.00 น.- 17.00 น.
อุทัยธานีเป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งการท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่รอให้ผู้คนได้ไปเยือน ซึ่งเมื่อใครที่ได้ไปลองสัมผัสกับความสวยงาม และวิถีชีวิตของคนที่นี่แล้ว รับรองว่าต้องติดใจจนต้องหาโอกาสกลับมาเยือนจังหวัดนี้ให้ได้อีกสักครั้งแน่นอน