
ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่หลายคนกำลังเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อดูความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งปีนี้โอซาก้า และโตเกียว ต้นไม้ค่อนข้างเปลี่ยนสีช้าเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวช้ากว่าทุกปี มาดูกันว่ามีจุดเช็คอินไหนบ้างที่สามารถดูความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่เรียกได้ว่าสวยเกินคำบรรยาย
ชมคลิปเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า – โตเกียว
ปราสาทโอซาก้า

เริ่มจากบินมาลงกันที่โอซาก้า (สนามบินคันไซ) จากนั้นไปเช็คอินจุดแรกกันที่ปราสาทโอซาก้า ซึ่งตอนนี้ตันไม้กำลังเปลี่ยนสีตลอดทางเดิน ถ้าเป็นฟ้าใสแดดออกก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้เลย โดยปราสาทโอซาก้า ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แลนด์มาร์กของเมืองที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

หลังจากชมความสวยงามที่โอซาก้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางย้ายเมืองไปยังเกียวโตเพื่อไปยังจุดเช็คที่ใครหลายคนต้องเคยเห็นเสาแดงๆ เรียงรายกันเป็นอุโมงค์ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กัน นั่นก็คือ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (伏見稲荷大社) หรือศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว โดยภายในศาลเจ้าจะมีเสาโทริอิจำนวนมากเรียงกันจนกลายเป็นอุโมงค์สวยงาม แนะนำให้ถ่ายรูปด้านที่เห็นตัวอักษรญี่ปุ่นเพื่อให้ดูสวยงามมากขึ้น
ศาลเจ้าแห่งนี้แน่นอนว่าในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวรวมถึงชาวญี่ปุ่นเองก็เข้ามากราบไว้ขอพรกันเยอะมากๆ เรียกได้ว่าแน่นอุโมงค์ทางเดินกันเลยทีเดียว ถ้าใครเดินไหวก็ให้เดินขึ้นไปชั้นสูงๆ คนก็จะไม่ค่อยเยอะ หาจังหวะถ่ายรูปแบบไม่ติดคนอื่นได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ขายของกินให้เลือกซื้อกันได้ การไปครั้งนี้ผมก็ได้ลองกินเนื้อย่างเสียบไม้ชุบซอสบาร์บีคิว ไม้ละ 500 เยนหรือประมาณร้อยกว่าบาท รสชาติอร่อยเลย แต่ว่าเนื้อจะมีส่วนที่เหนียวๆ ติดมาหน่อยๆ ทำให้เคียวแล้วอาจติดฟันได้และเนื้อชิ้นใหญ่มาก กินลำบากไปอีก (ฮา)
ย่านซาคาเอะ

ถ่ายรูปกับเสาโทริอิกันเรียบร้อย ทริปนี้ก็ย้ายเมืองทันทีไปยังเมืองนาโกย่า เพื่อไปช้อปปิ้งย่านซาคาเอะ ซึ่งตอนนี้ในเมืองก็เริ่มประดับไฟตามต้นไม้ตามถนนสายต่างๆ แล้ว ส่วนใหญ่เป็นไฟสีฟ้าและสีเหลืองทอง เรียกได้ว่าได้ทั้งช้อปและถ่ายรูปไฟในเมืองสวยๆ ได้ด้วย ถ้าใครเดินทางมาถึงช่วงเย็นๆ แนะนำให้จองโรงแรมที่เมืองนี้ไว้นอนพักสักคืนก่อนย้ายไปเมืองอื่นต่อไปนะครับ
วัดนิตไทจิ

เริ่มต้นวันใหม่ในนาโกย่า จะพาไปชมคมความสวยงามและประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่าวไทยกับญี่ปุ่นที่วัดนิตไทจิ (覚王山日泰寺) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งเป็นวัดที่ครั้งหนึ่ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังเคยเสด็จฯ เยือนที่นี่ด้วย
จุดถ่ายรูปสวยๆ นอกจากภายในบริเวณของวัดแล้ว เมื่อเข้าไปครั้งแรกทุกคนจะต้องเห็นเจดีย์ 5 ชั้นสถาปัตยกรรมอันงดงามในแบบญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ไม่ควรพลาด และถ้าใครมีสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์ไวด์เก็บภาพได้ครบตั้งแต่ฐานไปจนถึงยอดเจดีย์ได้สบายๆ
ทะเลสาบฮามานะ

หลังจากไหว้พระขอพรแล้ว เดินทางกันต่อไปที่ทะเลสาบฮามานะ สถานที่ที่คนรักปลาไหลห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาไหลที่ใหญ่และดีที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งจุดชมวิวของทะเลสาบก็สวยงามมากๆ ด้วย มีที่นั่งและสนามหญ้าเขียวเป็นพร็อพให้ได้ถ่ายรูปกันเพลินๆ
ทะเลสาบคาวากูชิโกะ ดูฟูจิซัง


ต่อไปก็ถึงจุดไฮไลต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ทุกคนต้องนึกถึงเป็นสิ่งแรกๆ เลย นั่นก็คือการไปถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ หรือฟูจิซัง โดยเดินทางไปที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะ ถ้าใครจะไปต้องดูพยากรณ์อากาศกันให้ดีๆ ต้องไปวันฟ้าใสเท่านั้นจึงจะเห็นฟูจิแบบชัดๆ ซึ่งครั้งนี้แม้จะมาครั้งแรกก็ต้องบอกว่าโชคดีมากๆ ที่ได้เห็นของจริง ยิ่งใหญ่และสวยงามมากจริงๆ ต้องมาดูด้วยตาแล้วจะรู้ว่าความรู้สึกต่างจากดูรูปถ่ายจริงๆ
อุโมงค์ใบเมเปิ้ล
ทะเลสาบคาวากูชิโกะ นอกจากจะมาดูฟูจิซังแล้ว รอบๆ ทะเลสาบและตามหุบเขาก็เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี และใกล้ๆ กันก็สามารถเดินไปถ่ายรูปกับโมมิจิ ไคโร อุโมงค์ใบเมเปิ้ล ที่ขึ้นอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของคลองน้ำมีทั้งสีเหลือ สีส้มและสีแดง ซึ่งในตอนกลางคืนก็มีการเปิดถ่ายรูปสวยไปอีกแบบ
ขึ้นฟูจิซังชั้น 4
ทริปนี้ในตอนแรกตั้งใจจะขึ้นฟูจิซังไปยังบริเวณชั้น 5 แต่ด้วยสภาพอากาศที่ปิด ฝนตกตลอดทั้งวันก็เลยขึ้นได้ถึงเพียงชั้น 4 เท่านั้น บนความสูงถึง 2 กิโลเมตร อากาศวันนั้นหนาว -3 องศา และมองไปบนยอดเขาก็จะเห็นหิมะด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ววิวฟูจิซังสามารถมองเห็นได้จากหลายๆ มุม ถ้าไม่ได้ผ่านทางนี้ก็สามารถไปที่ทะเลสาบอื่นได้เหมือนกัน แต่ถ้ามาที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้เห็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ลด้วยนั่นเอง
ถนนอิโชนามิกิ

จุดเช็คอินช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว ที่แรกเลยก็คือถนนอิโชนามิกิ ซึ่งเป็นถนนที่มีการปลูกต้นแปะก๊วยและตอนนี้ก็กำลังเปลี่ยนสีใบเป็นสีเหลืองทั้ง 2 ฝั่งถนน ถ่ายรูปสวยๆ ได้อีกจุด
ชินจูกุ ชิบูย่า และฮาราจูกุ

หลังจากไปเช็คอินตามจุดต่างๆ แล้ว ก็ได้เวลาไปเช็คอินตามย่านช้อปปิ้งกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นชินจูกุ ชิบูย่า และฮาราจูกุ ซึ่งแต่ละที่ต้องบอกว่าคนแน่นมากๆ โดยไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการไปเดินข้ามถนนตรงจุด 5 แยกชิบูย่า และถ่ายรูปตอนคนกำลังข้ามถนนจากมุมบนร้านสตาร์บัคส์
วัดเซนโซจิ

มาโตเกียวทั้งที ควรต้องแวะไปอีก 2 วัด โดยวัดแรกคือวัดเซนโซจิ เป็นวัดเก่าแก่ที่ต้องมาขอพร ซึ่งก็มีหลายคนที่สมปราถนาตามคำขอโดยเฉพาะเรื่องความรักที่เคยมีรีวิวบนพันทิปครั้งหนึ่งจนมีคนแห่มาซื้อเครื่องรางความรักที่วัดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก
มาวัดนี้ต้องถ่ายรูปคู่กับโคมไฟยักษ์หน้าประตู และรอบๆ วัดก็มีร้านขายของที่ระลึกเพียบ
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ

อีกวัดที่ควรต้องมาคือ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ มีอายุนับพันปี เป็นวัดที่เชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์มากทางด้านการขอพรเรื่องความปลอดภัย แคล้วคลาดจากภัยอันตราย รวมถึงถึงเรื่องงาน และความรัก โดยจุดถ่ายรูปคือตามทางเดิน โคมไฟยักษ์หน้าประตูทางเข้า และเจดีย์อันงดงามในแบบญี่ปุ่น ซึ่งรอบๆ วัดตอนนี้ก็เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมากๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับจุดเช็คอินและแพลนเที่ยวเมืองโอซาก้า เช็คอินตามจุดต่างๆ ไปจนถึงโตเกียว ซึ่งจริงๆ แล้วสถานที่ท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ นั้นมีเยอะมากๆ ซึ่งที่เลือกมาแนะนำก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวฮิตไปถ่ายรูปกันนั่นเอง
ติดตามเรื่องเที่ยว เรื่องกิน และการเดินทางได้ที่แฟนเพจ กินเที่ยวกัน มากดไลท์ให้กำลังใจกันเยอะๆ ด้วยนะครับ